พระผงรุ่นสาม หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง
|
||||||||||||||||
|
||||||||||||||||
ส่งข้อความ
|
||||||||||||||||
ชื่อร้านค้า
|
นนท์ มหาโชค | |||||||||||||||
โดย
|
ngamkamol | |||||||||||||||
ประเภทพระเครื่อง
|
พระเนื้อผง | |||||||||||||||
ชื่อพระ
|
พระผงรุ่นสาม หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง |
|||||||||||||||
รายละเอียด
|
*** กับที่สุดของเล็บมือวัดป่า เนื่อผงวิเศษ ขาวบางขุนพรหม(ใช้พระสมเด็จบางขุนพรหมเก่าในการบดกดทำพิมพ์พระ ที่ถือว่าเป็นสุดยอดของด้านเสน่ห์ เมตตามหานิยม เน้นบุญฤทธิ์ หนุนดวงชะตา แคล้วคลาดภัยพิบัติ ป้องกันรักษาโรค ป้องกันภัย แก้คุณไสย คงกระพัน ดันโชคลาภ ช่วยให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง ก้าวหน้าในกิจการงาน ทำให้มีชื่อเสียง มีอำนาจปราศจากศัตรู ใครมีบารมีได้ไว้จะไม่มีวันตกต่ำ ด้วยพลังอานุภาพในด้านพุทธคุณ กอรปกับความงดงามในด้านพุทธศิลป์ พระสมเด็จในเจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) จึงได้รับการถวายพระนามอย่างสมพระเกียรติว่าเป็น “จักรพรรดิ์แห่งพระเครื่อง” เสมือนเครื่องวัดภูมิฐานะของความเป็นนักนิยมพระเครื่อง พระสมเด็จจึงเป็นสุดยอดวิญญาณปรารถนาของนักนิยมพระเครื่องทุกคน) หลังลายนิ้วมือ จัด มัน แกร่ง ขาวแท้ครบสูตร จัดเป็นเนื้อพิเศษสร้างน้อยมากหลักสิบองค์ ในพิมพ์เล็บมือ ของพระชุดวัดป่า พิมพ์นิยม ฟอร์มตรง พิมพ์ใหญ่ *** ...ผงวิเศษในพระสมเด็จวัดระฆัง สุดยอดของส่วนผสมในเนื้อพระ อันประกอบไปด้วย ผง ปัถมังอิทธะเจ มหาราช พุทธคุณ และตรีนิสิงเห ผงวิเศษเหล่านี้ได้ผ่านกรรมวิธีลงวิทยคาถาขั้นสูง ทำให้เกิดอานุภาพ มหามงคลประดุจดั่งพุทธรังสีแผ่คุณความดีไปทั่วพุทธจักรวาล และบังเกิดผลานิสงส์แก่ผู้สักการะบูชาไม่เสื่อมคลาย ...นอกจากผง วิเศษดังกล่าวแล้ว ท่านยังผสมผสานวัตถุมงคลอาถรรพ์อื่นที่ท่านพิจารณาเห็นว่ามีความ ศักดิ์สิทธิ์ลงในเนื้อพระด้วย เช่นว่านร้อยแปด ดอกไม้บูชาพระ ก้านธูป ผงใบลานเผา ข้าวก้นบาตร เศษพระเครื่องโบราณ เศษจีวรห่มพระพุทธรูป ทรายเงิน ทรายทอง ฯลฯ ทำให้เนื้อพระมีความศักดิ์สิทธิ์ และมีคุณค่ายิ่งกว่าเพชรน้ำหนึ่ง ...พระผงเล็บมืออีกองค์ เป็นพระผงว่านที่จัดสร้างในปี2513 ออกวัดป่าธรรมธีราราม(หลังโรงเลื่อย) จ.บุรีรัมย์ เช่นกัน องค์พระสวยสมบูรณ์ พร้อมใบประกาศรางวัล ยิ้มรับทรัพย์-นั่งนับแบงค์ แท้ดูง่าย เนื้อแกร่งออกเขียวขี้ม้าเข้ม สุดหายาก ขึ้นกล้องมันส์ มวลสารเข้มข้นก้นครก หลังกดมือ หน้านิยม ฟอร์มตรง พิมพ์ใหญ่ " อันของ ดี มีอยู่แต่รู้ยาก คนรู้มากไม่รู้ ดี มีอีกโข อันของ ดี ใช่อยู่ที่คำโว ต้องคนรู้ดูเป็นจึงเห็น ดี " " โยภาวนาภิมัณฑัสสะ ปูชังนิจจังกะโรติโส ลาภัง ยะสัง สุขาทีนิ สัพพะทาอะธิคัชชะตีติ " นะโมพุทธายะ นะโมนะนะ 3จบ (พระครูภาวนาภิมนฑ์)...หลวงปู่สุข ธรรมโชโต วัดโพธิ์ทรายทอง อ.ละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ เกจิดังของอีสานใต้ ที่ชั่วโมงนี้ดังระดับประเทศ ...หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง ท่านนับเป็นอาจารย์อีกรูปหนึ่งของหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ท่านพบหลวงปู่สุข คราวปลุกเสกงาน25พุทธศตวรรษ ที่ท้องสนามหลวง ขณะนั้นหลวงปู่โต๊ะ ท่านดังมาก ซึ่งเวลาพักจากปลุกเสกในพิธีนี้ หลวงปู่โต๊ะท่านทราบได้ด้วยจิต ว่าหลวงปู่สุขท่านเก่งมากมีพลังจิตแก่กล้ามาก เวลาพักปลุกเสกท่านให้ลูกศิษย์พาเข้าไปกราบหลวงปู่สุขเลย และขอฝากตัวเป็นศิษย์ ซึ่งภายหลังท่านได้ต่อวิชาหลายอย่างจากหลวงปู่สุข ขณะปลุกเสกงาน25พุทธศตวรรษนั้น ฝนตกหนัก ลูกศิษย์ท่านก็เอาใบจากมาทำเพิงบังฝน ลูกศิษย์เปียกปอนกันหมด แต่หลวงปู่สุขท่านจีวรไม่ได้เปียกฝนเลยแม้แต่น้อย จนเป็นที่กล่าวขานถึงความศักสิทธิ์ หลวงปู่สุขท่านเป็น"พระอรหันต์"ในที่ห่างไกลความเจริญ ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่อินทร์ ซึ่งเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อคงวัดถนนหักใหญ่ซึ่งหลวงพ่อคงท่านเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ เคยมีคนเอาของของท่านไปลอง เป็นเครื่องยาสมุนไพรเป็นว่าน ท่านเอามาห่อผ้าให้คนเอาไปใช้บูชา ดีทางมหาอุดมาก ยิงไปนัด1นัด2ไม่ออก พอนัด3ปืนแตก มือแหก การเสกของท่านคล้ายกันกับหลวงปู่สี วัดถ้ำเขาบุนนาค คือจับๆแล้วเป่าๆแค่นั้น ...มีผู้กล่าวว่าท่านสำเร็จวิชาย่นระยะทางไป – กลับได้ กำหนดรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า มีความศักดิ์สิทธิ์แม่นยำในการทำนายทายทักเหตุการณ์ต่างๆไว้ล่วงหน้าได้จริงเหมือนตาเห็น สามารถที่จะแสดงอิทธิฤทธิ์ตลอดจนคุณวิเศษต่างๆ ได้โดยไม่เคยอวดอ้าง ซึ่งวิชาดังกล่าวจะบังเกิดเฉพาะท่านที่ปฏิบัติทางวิปัสสนาธุระ จนกระทั่งได้ญาณสมาบัติขั้นสูงถึงขั้นอภิญญา 6 เท่านั้น อภินิหาร พุทธาคม และความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เล่าสืบทอดกันมา... " ดังเมื่อย้อนไปครั้งที่ครูบาสร้อย ขันติสาโร ศิษย์เอก ในระหว่างอยู่ศึกษากับหลวงปู่สุขอยู่นั้น ท่านได้เกิดอาการปวดศีรษะอย่างแรงขณะปฏิบัติสมาธิอยู่บนศาลา จึงขอหลวงพ่อสุขไปพัก โดยระหว่างนั้นเองขณะนอนลงพัก วิญญาณของท่านก็ได้หลุดจากร่าง ซึ่งการมรณะ(วิญญาณหลุดจากร่างไป)ครั้งนี้ ท่านได้สิ้นลมไป 7 วันเต็ม ซึ่งในระหว่างนั้นหลวงปู่สุขได้ทำพิธีเพื่อตามท่าน นำท่านกลับมาได้ (ซึ่งวิชาเดียวกันนี้ท่านได้ใช้ช่วยชีวิตเด็กชาวกะเหรี่ยงให้ฟื้นคืนมาแล้ว) ...ท่านมีอภิญญาสูงเปี่ยมเวทย์วิทยาคม มีเมตตาไม่เคยยึดติด สมถะเรียบง่าย ไม่สะสม และไม่ยินดีในลาภยศสรรเสริญ เช่นที่หลวงปู่เคยกล่าวในคราวได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระครูฯว่า " ก็ข้าเป็นพระแล้วจะให้ข้าเป็นอะไรอีก "...ท่านนิยมสอนสมถกัมมัฏฐานและวิปัสสนากัมมัฏฐานให้กับบุคคลโดยทั่วไป ผู้ถือศีล สามเณร และพระภิกษุ โดยท่านจะให้ผู้ขอขึ้นกัมฏฐานกับท่านใช้องค์ภาวนาซึ่งเป็นภาษาเขมรว่า “อะ อา แอ๊ก ไอ นะ นู เน นิ นัง” ...ลูกศิษย์ใกล้ชิดจะทราบกันดีว่า หลวงปู่สุขท่านเก่งและสำเร็จในเรื่องยันต์ "นะ"...อย่างที่หลวงปู่โฉม วัดอัมภาราม(ลูกศิษย์ผู้ได้รับมองคันธนูอาคมจากหลวงปู่สุข) ท่านเคยเล่าให้ฟังตอนศิษย์จากกรุงเทพมาขอให้ท่านลงหลังให้ว่า " หลวงพ่อสุขท่านไม่เคยลงเลขยันต์อะไรมากมาย ท่านว่าแค่นะตัวเดียวก็ขลัง ซึ่งปัจจุบันวิชาสายนี้ก็คงเหลือเพียงไม่กี่องค์ที่ทำได้ "...ท่านยังบอกอีกว่า " หลวงพ่อสุขนี้เป็นพระอรหันต์มีพลังจิตลึกล้ำพิสดาร " และหลวงปู่สุขท่านไม่ค่อยจารวัตถุมงคลกันง่ายๆ ซึ่งจะหาวัตถุมงคลที่มีรอยจารได้ยากมากๆ คนทั่วไปมักรู้จักหรือได้ยินได้ฟังประสบการณ์ของหลวงปู่ด้านเหนียว คงกระพันเป็นหลัก หากแต่ยังไม่รู้ถึงด้านเสน่ห์เมตตามหานิยม อุดมทรัพย์ แคล้วคลาดปลอดภัย ทีมีครบเครื่องเช่นเดียวกัน ...สุดยอดพิธีการสร้าง และสุดยอดพิธีปลุกเสกในปี13 โดยหลวงปู่สุขมาร่วมพิธีด้วยที่วัดป่า พร้อมกับพระเกจิอาจารย์ดังและเก่งของจังหวัดบุรีรัมย์มากมาย ...พระรูปเหมือนหลวงปู่สุข ออกที่วัดป่าหลังโรงเลื่อยบุรีรัมย์ นับว่าเป็นสุดยอดพระเครื่องทั้งพิธี การปลุกเสก และการสร้าง ซึ่งเป็นการทำกันแบบชาวบ้าน ตำผง บดว่าน ผสมผง ทำกันแบบชาวบ้านทำมือ กดพิมพ์พระกดมือล้วนๆไม่มีเครื่อง ตัดแต่งข้างด้วยมือ ( ซึ่งจะเห็นว่าพระไม่เท่ากัน บางองค์บิดเบี้ยว บางองค์ตรงสวย บางองค์ติดชัด บางองค์ไม่ชัด ไม่สวย ) และผู้ที่ร่วมทำพิธียังต้องถือศีล 5 อีกด้วย ...พิธีปลุกเสกก้อถือว่าเป็นพิธีที่สุดยอดที่สุดแล้ว สำหรับการปลุกเสกพระเครื่องในต่างจังหวัดในยุคปี พ.ศ. 2513 ซึ่งความเจริญยังไปไม่ถึง เป็นการปลุกเสกพระเครื่องของหลวงปู่สุขที่มีการทำพิธีแบบเป็นทางการมากที่ สุด ( ถ้านับแค่ในจังหวัดบุรีรัมย์นะครับ ) มีการจัดปะรำพิธี เครื่องบายศรี หัวหมู เพื่อบวงสรวงเทพเทวา มีการจุดเทียนชัย และ สวดชยันโตตลอดพิธี และที่ว่าสุดยอดคือ หลวงปู่สุข ท่านมาเป็นประธานในพิธีปลุกเสก นั่งปรกปลุกเสกร่วมกับพระเกจิอาจารย์ดังๆของจังหวัดบุรีรัมย์ในยุคนั้น 3 วันเต็มๆครับ ซึ่งพระเกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสกในครั้งนั้นอาทิเช่น หลวงพ่อทิพย์ วัดโพธิ์ทอง บ้านพระครู ( หลวงพ่อสารพัดนึก ท่านเก่งเรื่องน้ำมนต์สารพัดนึก ดีเด่นเรื่องโชคลาภ อธิฐานดังใจนึก ).....หลวงพ่อพา วัดโพธิ์ทอง บ้านยาง ( ท่านเก่งเรื่องแคล้วคลาด คงกระพัน ถอดคุณ ถอดของ ).....หลวงพ่อต๊ะ วัดบ้านใหม่ สามแวง ( ท่านเก่งเรื่องแคล้วคลาด คงกระพัน รดน้ำมนต์กลับร้ายกลายเป็นดี เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีพลังจิตสูงจนเป็นตำนานกล่าวขานว่า ท่านปลุกเสกเหรียญรุ่น 2 ออกวัดเพ็ชรน้อย จนเหรียญบินได้เหมือนจานบิน จนมีการเรียกเหรียญรุ่นนี้ว่า " รุ่นจานบิน " ).....หลวงพ่อคง วัดกลางพระอารามหลวง จ.บุรีรัมย์ ( ท่านเก่งเรื่องยิงกระสุนคด ธนูไฟปราบเปรด พระเกจิอาจารย์ผู้มีพลังจิตสูง แม้หลวงพ่อทิพย์ วัดโพธิ์ทองยังนิมนต์ปลุกเสกพระเครื่องของท่านเสมอๆ อีกทั้งหลวงพ่อคง ท่านยังเป็นพระสหธรรมิกกับ หลวงพ่อ เอ้ สารีฯ อ.ประโคนชัย เวลาหลวงพ่อเอ้มาบุรีรัมย์ ท่านจะต้องมาพักที่วัดกลางฯบุรีรัมย์ เสมอครับ ).....หลวงพ่อจันทร์ วัดราษฎร์ศรัทธาธรรม อ.ห้วยราช ( เก่งเรื่องว่านยา แก้โรค แก้คุณ แก้ของ ).....หลวงพ่อบุญธรรม ( หลวงพ่อผมยาว ) วัดธรรมธีราราม ( วัดป่าหลังโรงเลื่อย ) อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ( ท่านเก่งเรื่องแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี สำหรับหลวงพ่อผมยาวท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีความเหนียวถึงขั้นแม้แต่ผม ท่านยังตัดไม่เข้า ท่านจึงได้ฉายาว่า " หลวงพ่อผมยาว " ผมของท่านตัดไม่ได้จนต้องมีการนิมนต์อาจารย์ท่าน มาตัดให้ถึงตัดได้ )...และยังมีพระเกจิอาจารย์ที่เก่งอีกหลายท่านที่มาร่วมปลุกเสกในพิธีครั้งนี้ จัดเป็นสุดยอดพระผงว่านที่น่าเก็บสะสม และบูชาของเมืองบุรีรัมย์...ราคา(ยัง)ไม่แพงมาก!!!(ให้ทั่วประเทศรู้ว่าบ้านเรามีดี) |
|||||||||||||||
ราคา
|
เพื่อการศึกษา | |||||||||||||||
เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ
|
0890999979 | |||||||||||||||
ID LINE
|
0890999979 | |||||||||||||||
จำนวนการเข้าชม
|
3,719 ครั้ง | |||||||||||||||
บัญชีธนาคารที่ใช้ยืนยันตัวตน
|
ยังไม่ส่งข้อมูล
|
|||||||||||||||
|